เครื่องพ่นสี แบบพกพา เครื่องมือช่างสีที่สามารถพกพาไปไหนได้สะดวกสบาย

calibration

เครื่องพ่นสี แบบพกพา เป็นเครื่องพ่นสีไฟฟ้าที่มีขนาดเล็กสามารถพกพาไปไหนได้สะดวกสบายสำหรับช่างสี ซึ่งเครื่องพ่นสีไฟฟ้านี้มีความเร็วกว่าการใช้ลูกกลิ้งทาสีและแปรงทาสีโดยการทาสีนั้นเป็นกิจกรรมที่กินระยะเวลาในการทำงานมากซึ่งการใช้งานกาพ่นสีไฟฟ้าหรือเครื่องพ่นสีไฟฟ้านั้นจะช่วยลดระยะเวลาในการทำงานดังกล่าวลงได้มากกว่าเดิมซึ่งจะทำให้คุณนั้นสามารถที่จะใช้เวลาไปทำอย่างอื่นและช่วยให้งานของคุณเสร็จรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าของบ้านหรือผู้รับเหมาที่ต้องการความรวดเร็วในการทำงานนั้น การใช้เครื่องพ่นสีไฟฟ้าจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นนั่นเองและนอกจากนั้นเครื่องพ่นสีไฟฟ้านั้นยังช่วยให้คุณสามารถที่จะทำงานในการพ่นสีโดยให้ผลลัพธ์ที่ออกมาดูเป็นมืออาชีพมากกว่าการใช้งานแปรงและลูกกลิ้งนั่นเอง

เครื่องพ่นสีไฟฟ้า คืออะไร ?

เครื่องพ่นสีไฟฟ้า เป็นเทคโนโลยีใหม่ของกาพ่นสีโดยใช้ระบบไฟฟ้ามาแทนที่ ซึ่งในบางครั้งก็สามารถใช้เครื่องพ่นละอองฝอยแทนกันได้เช่นกัน ซึ่งการเปลี่ยนมาใช้ไฟฟ้าทำให้สามารถตัดภาระในการพกพาเครื่องปั๊มลม ตัวปรับแรงดัน สายลม และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องได้ จึงทำให้เรามีพื้นที่เหลือเพียงพอ สำหรับเครื่องมืออื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องเชื่อมไฟฟ้า, สว่านไฟฟ้า และรวมถึงเครื่องมืออื่น ๆ

ในส่วนของการใช้งานนั้น เพียงแค่คุณเสียบปลั๊ก เครื่องพ่นสีไฟฟ้าก็สามารถใช้งานได้ทันที คุณไม่ต้องต่อสายให้ยุ่งยากอีกต่อไป สามารถพ่นสีได้ทุกสภาพพื้นผิว และยังพ่นสีออกมาได้เรียบเนียน และไม่ต้องทาสีซ้ำ ซึ่งจะเหมาะเป็นอย่างยิ่ง กับงานนอกสถานที่ ที่จำเป็นต้องเคลื่อนย้ายบ่อย ๆ และต้องใช้เวลาในการทำงานที่รวดเร็ว เช่น งานพ่นสีประตู หน้าต่าง ผนัง และอื่น ๆ ไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์มากมายอีกต่อไป ต้องการเพียงแหล่งจ่ายไฟเท่านั้นไม่ว่าจะเป็นไฟบ้านหรือไฟจากเครื่องปั่นไฟ ก็ใช้งานได้ทันที อีกทั้งยังสามารถถอดล้างทำความสะอาดได้ง่ายอีกด้วย

กาพ่นสี ในปัจจุบันมีทั้ง แบบที่ใช้ไฟฟ้า และแบบที่ใช้ปั้มลม ซึ่งในบทความนี้จะกล่าวถึงกาพ่นสีที่ใช้ไฟฟ้าเท่านั้น โดยเครื่องพ่นสีไฟฟ้า นั้น ในท้องตลาดมีอยู่มากมายหลากหลายรุ่นจากหลายยี่ห้อให้คุณได้เลือกใช้ตามแต่ลักษณะของงานของคุณได้เลย

การเลือกซื้อเครื่องพ่นไฟฟ้า เลือกซื้ออย่างไร

1. ปริมาณงานของคุณ

เครื่องพ่นสีไฟฟ้าในแต่ละรุ่นจะมีขนาดหัวพ่น ปริมาณการพ่น และกาบรรจุสีที่แตกต่างกัน ซึ่งถ้าหากคุณเลือกเครื่องเล็ก แต่ชิ้นงานของคุณมีขนาดใหญ่ นั่นหมายความว่าคุณต้องทำการเติมสีอยู่เรื่อย ๆ อาจทำให้สีที่พ่นลงไปบนชิ้นงานไม่ต่อเนื่องกันได้ ดังนั้นก่อนเลือกควรดูให้ดีว่า จะนำไปใช้งานกันอะไร ? และมีปริมาณมากขนาดไหน ?

2. ขนาดของหัวพ่น

เครื่องพ่นสีไฟฟ้าบางรุ่นมีการให้หัวพ่นมากหลากหลายขนาด ซึ่งจะช่วยให้เหมาะสมสำหรับสีบางประเภทที่มีความหนืดในระดับต่าง ๆ แต่บางรุ่นก็ให้มาเพียงแค่ขนาดเดียว ดังนั้นคุณจะต้องพิจารณางานของคุณก่อนว่า คุณต้องการนำไปใช้กับสีประเภทไหนบ้าง ? ซึ่งขนาดของหัวฉีดพ่นที่เหมาะสมก็จะขึ้นอยู่กับคุณว่า ชิ้นงานของคุณต้องการความละเอียดมากน้อยแค่ไหน ?

3. ความจุของกระบอกสี

เครื่องพ่นสีแบบพกพาแต่ละรุ่นจะมาพร้อมกับกระบอกสีหรือกระป๋องบรรจุสีที่มีขนาดแตกต่างกัน ส่วนใหญ่จะมาพร้อมกระบอกสีที่มีความจุเฉลี่ยประมาณ 1.0 ลิตร ซึ่งความจุเหล่านี้หมายถึง ยิ่งคุณมีความจุเยอะมากเท่าไหร่ คุณก็จะสามารถพ่นสีได้นานมากเท่านั้น โดยไม่ต้องกลัวว่าสีจะหมดไปก่อนที่งานคุณจะเสร็จ นอกจากนี้กระบอกสีบางรุ่นยังมีการออกแบบมาเป็นพิเศษ โดยมีช่องเติมสีอยู่ที่บริเวณด้านข้าง ทำให้คุณไม่จำเป็นต้องถอดกระบอกสี ออกมาจากปืนให้เสียเวลานั่นเอง สิ่งนี้ก็จะช่วยให้คุณใช้งานได้ต่อเนื่องมากขึ้น

4. ขนาด น้ำหนัก และความยาวสายลม

สำหรับข้อนี้ก็มีความสำคัญมากพอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหากคุณต้องการพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ อาทิเช่น พ่นสีประตูรั้ว หรือพ่นสีกำแพงบ้าน เป็นต้น เนื่องจากเครื่องพ่นสีไฟฟ้าในแต่ละรุ่นมีน้ำหนักค่อนข้างมาก ดังนั้นหากคุณต้องการนำไปพ่นวัตถุขนาดใหญ่ การเลือกรุ่นที่มีสายลมยาวมากขึ้นก็จะช่วยได้เยอะ เพราะคุณสามารถวางเครื่องพ่นสีไฟฟ้าไว้กับที่ได้ ส่วนคุณก็ถือปืนพ่นเพียงอย่างเดียว แต่หากคุณเลือกเครื่องพ่นสีไฟฟ้าที่มีสายลมสั้นคุณก็ต้องสะพายเครื่องพ่นติดตัวไปด้วย

5. งบประมาณ

แน่นอนว่า เครื่องพ่นสีไฟฟ้าแบบพกพา ส่วนใหญ่จะมีราคาต่างกันไม่มากเท่าไหรนัก โดยฟังก์ชันการใช้งานต่าง ๆ จะคล้ายกัน ฉะนั้นในเรื่องของราคา จะแตกต่างกันที่คุณภาพและปริมาณการใช้งานที่มากขึ้นเท่านั้น ซึ่งรุ่นที่มีราคาสูง อาจจะใช้งานต่อเนื่องได้นานกว่า ส่วนรุ่นราคาประหยัด ถ้าหากต้องการใช้งานต่อเนื่องคุณก็จำเป็นจะต้องพักให้เครื่องเย็นลงก่อน เพื่อช่วยให้เครื่องมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น ดังนั้นถ้าหากคุณต้องการนำไปใช้ในงาน DIY เล็ก ๆ ก็ไม่เสียหายอะไร หากคุณจะซื้อรุ่นที่มีราคาถูกที่สุด

ประโยชน์ของเครื่องพ่นสีไฟฟ้า

  1. ชิ้นงานออกมาเรียบเนียน สวยงาม
  2. ประหยัดเวลาในการทำงาน
  3. ความหนาของสีที่ทาเสมอกันทุกพื้นผิว
  4. ดูเป็นมืออาชีพ

ข้อเสียของเครื่องพ่นสี

  1. กาพ่นสีแบบพกพาต้องสะพาย ถ้าพ่นนาน ๆ จะเมื่อยแขนและหัวไหล่
  2. สีฟุ้งกระจาย ต้องป้องกันเฟอร์นิเจอร์หรือพื้นผิวอื่น ๆ เพราะสีจะฟุ้งเป็นละออง

วิธีการทำความสะอาดกาพ่นสีไฟฟ้าเมื่อใช้งานเสร็จ 

  • เทสีที่ค้างในกาออกให้หมด
  • เติมทินเนอร์ลงไปเล็กน้อย จากนั้นประกอบกาและเขย่าเพื่อละลายสีที่ติดอยู่ในกระบอก
  • ใช้กระดาษชำระชุบทินเนอร์เช็ดสีในกา และบริเวณเกลียวให้สะอาด
  • ใส่ทินเนอร์เล็กน้อย จากนั้นประกอบกา และทำการเปิดเครื่องเพื่อพ่นทินเนอร์ออกมา เป็นการล้างท่อด้านในและหัวพ่น
  • ถอดหัวพ่นสีออก ใช้กระดาษชำระชุบทินเนอร์แล้วเช็ดทำความสะอาด 
Next Post

กบไฟฟ้า เครื่องมือช่างสำหรับช่างไม้ ที่สามารถทำงานไม่ให้ออกมาดูดีและสวยงามได้

กบไฟฟ้า หรือกบไสไม้ เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ของช่างไม้ท […]
กบไฟฟ้า

Subscribe US Now